 |
| SMS ที่ได้รับ (ขออนุญาตปิดชื่อสถาบันทางการเงินเพื่อความปลอดภัยทางด้านกฎหมาย) |
คงจะแปลกใจกันที่ในช่วงปลายเดือนมกราคมคงจะมีใครหลายๆคนได้รับ SMS จากทางธนาคารเรื่องระบบ"พร้อมเพย์" (PromptPay) พร้อมให้ใช้บริการกันบ้างแล้วใช่ไหม? หลายคนคงเผลอไปสมัครตั้งแต่ปลายปี 2559 กันแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้สมัคร งั้นลองมาเรียนรู้และไขข้อสงสัยกับระบบพร้อมเพย์ไปกับบทความนี้กัน
ระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) เอาแบบที่คนธรรมดาสามัญเข้าใจได้มันก็คือ "การโอนเงินและรับเงินที่ใช้ เบอร์โทร หรือ เลขบัตรประจำตัวประชาชน มาใช้แทนเลขบัญชีของเรา"
ซึ่งวิธีการสมัครก็เพียงแค่นำ บัญชีที่เรามีอยู่ + บัตรประชาชน + เบอร์โทรศัพท์มือถือ มาลงทะเบียนได้ผ่านทางธนาคาร , ตู้ ATM , Internet Banking , Mobile Banking ของธนาคารที่คุณใช้บริการอยู่ แค่นี้ก็เรียบร้อย
แน่นอนว่ามันสะดวกมาก ทั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชนกับเบอร์โทรศัพท์เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่จำได้มากว่าเลขบัญชีธนาคาร ง่ายๆเลย ลองถามตัวเองดูนะว่าระหว่างเลขบัญชีกับเบอร์โทรคุณจำอันไหนได้มากกว่ากันละ? แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องใช้อยู่ทุกวันอย่างเบอร์โทรคงเป็นคำตอบในใจหลายๆคนเลยแหละ
แถมค่าธรรมเนียมในการโอนก็หลอกล่อใจให้สมัครอย่างมาก แถมฟรีอีกด้วยในกรณีที่โอนไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ไม่ว่าจะต่างหรือธนาคารเดียวกัน ก็มีอัตราการจ่ายค่าธรรมเนียม เท่ากัน ลองมาดูอัตราค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายกัน
 |
| อัตราค่าธรรมเนียมในระบบพร้อมเพย์ |
จะเห็นได้เลยว่ามีค่าธรรมเนียมการโอนที่ถูกกว่าปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมเลย เรียกได้ว่าคนที่ต้องโอนไปนู่นไปนี่บ่อยๆนี่น่าจะปลื้มใจสุดๆ
วิธีการสมัครไม่ใช่เรื่องยากมีอยู่หลายวิธีแล้วแต่เราจะผูกเลย
 |
| วิธีการผูกบัญชีกับระบบพร้อมเพย์ ขอบคุณ ศคง. และธนาคารแห่งแระเทศไทย |
แต่อย่างไรก็ตามบริการ PROMPT PAY นี้ บัญชีธนาคารสามารถผูกกับบัตรประชาชนได้เพียง 1 ใบ และเบอร์มือถือ 3 เบอร์ ต่อ 1 คนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า 1 คนจะสามารถใช้บริการ Prompt Pay ผูกกับบัญชีธนาคารได้สูงสุดเพียง 4 บัญชีเท่านั้น(ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของธนาคาร)
แต่อดสงสัยไม่ได้เรื่องความปลอดภัยในการใช้งานใช่ไหม? คงตอบได้แค่เรื่องที่ คนอื่นที่ไม่ได้เป็นเจ้าของบัญชีนั้น ไม่สามารถ ใช้แค่เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มาใช้ในการถอนเงินได้ การจะถอนเงินทุกครั้งยังต้องนำบัญชีมาพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน เหมือนเดิม
แต่เรื่องอื่นที่เคยได้ยินข่าว เช่นเรื่องที่พนักงานแห่งหนึ่งนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปขายให้กับบุคคลภายนอก อันนี้คงตอบไม่ได้ว่าทางธนาคารจะรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามากได้น้อยแค่ไหน โดยตัวระบบนั้นต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นก่อนจะสมัคร อ่านและทำความเข้าใจในข้อตกลงก่อนทุกครั้งและค่อยตัดสินใจกันอีกทีก็ยังไม่สาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น